QR Code

LINE Official

@interhome

หน้าหลัก ฝากขายบ้าน
ฝากขายที่ดินกับเรา
ติดต่อ ฝากซิ้อ
ฝากขายบ้าน ที่ดิน
ทีมงานมืออาชีพ

31 มกราคม 2559 : การซื้อขายอสังหาฯ เชิงธุรกิจฟื้น กรุงเทพฯติดโผค่าเช่าสนง.ขยับขึ้น



การซื้อขายอสังหาฯ เชิงธุรกิจฟื้น กรุงเทพฯติดโผค่าเช่าสนง.ขยับขึ้น
Source - คมชัดลึก (Th)

          แม้ในหลายประเทศทั่วโลกจะประสบปัญหาความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองที่ท้าทาย  ตลาดการลงทุนซื้อขายอาคารและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจทั่วโลก  ยังคงมีกิจกรรมเกิดขึ้นอย่างคึกคักและมีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 2560 นี้
          จากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ "เจแอลแอล" ระบุว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา  ทั่วโลกมีการลงทุนซื้อขายอาคารและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจ (อาทิ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม โรงงาน และโกดังสินค้า) รวมมูลค่าทั้งสิ้น 6.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 22.7 ล้านล้านบาท แต่สำหรับปี 2560 นี้  มีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณการลงทุนเพิ่มมาก
          ขึ้น  โดยคาดว่ามูลค่ารวมสำหรับทั้งปีอาจขยับขึ้นไปได้มากถึง 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือประมาณ 24.5 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2557 และ 2558
          หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เชื่อว่าตลาดการลงทุนซื้อขายในปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น คือการที่กลุ่มนักลงทุนประเภทสถาบันมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเหล่านี้เน้นการหาโอกาสการลงทุนที่มีผลตอบแทนการลงทุนที่สูงขึ้น  นอกจากนี้ ยังมีแหล่งทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นจากหลากหลายประเทศ อาทิ จีน ไต้หวัน  มาเลเซีย ฯลฯ
          นักลงทุนต่างๆ เหล่านี้ ทั้งที่มีอยู่เดิมและที่เข้ามาใหม่   มีจำนวนมากที่มีทุนหนาและสามารถระดมทุนเพื่อเข้าซื้ออาคารหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างรวดเร็ว
          ปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าสนใจคือ  การที่จีนขยายบทบาทขึ้นมาเป็นกลุ่มทุนรายใหญ่บนเวทีโลกด้านการลงทุนซื้ออาคารโครงการอสังหาริมทรัพย์  โดย ณ สิ้นไตรมาสสามของปีที่ผ่านมา  กลุ่มทุนจากจีนมีการเข้าลงทุนซื้ออาคารและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจในต่างประเทศมากที่สุด  แซงหน้าสหรัฐ
          "เมืองที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนที่สนใจลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์  ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเมืองในประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว  ซึ่งการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความเสี่ยงต่ำ มีความโปร่งใส  และซื้อขายได้คล่อง แต่เมืองหลักๆ เหล่านี้ มักมีการแข่งขันสูง  จึงมีนักลงทุนบางส่วนที่ให้ความสนใจการลงทุนในเมืองเป้าหมายรองในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่  ดังนั้น  ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีความโปร่งใสในตลาดอสังหาริมทรัพย์สูงกว่าประเทศอื่นๆ  ในกลุ่มเดียวกัน  จะมีโอกาสในการดึงดูดนักลงทุนได้ดีกว่า"
          ขณะที่รายงานการศึกษาตลาดอาคารสำนักงานของ เจแอลแอลใน 17 เมืองสำคัญของเอเชียแปซิฟิก ระบุว่า ตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าในเมืองส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่ดีในปีนี้  โดยเฉพาะย่านศูนย์กลางธุรกิจในเมลเบิร์น ซิดนีย์ บังกาลอร์  และกรุงเทพฯ  ส่วนภาคธุรกิจที่มีแนวโน้มต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่มมากที่สุดในปี  2560 นี้ ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี กลุ่มบริษัทยา กลุ่มบริการทางวิชาชีพ และกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะสองกลุ่มแรก
          "เจรามี เชลดอน"  กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจบริการด้านอาคารสำนักงาน เจแอลแอล  ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า โดยภาพรวม  ปัจจัยที่ทำให้ความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานในเอเชียแปซิฟิกขยายตัว  ส่วนใหญ่มาจากบริษัทภายในประเทศ  ซึ่งต้องการเปิดออฟฟิศหรือขยายออฟฟิศในย่านศูนย์กลางธุรกิจ  และการเติบโตของภาคธุรกิจต่างๆ  โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริษัทผลิตภัณฑ์ยา
          มีรายงานว่า 70% ของบริษัทชั้นนำของโลกด้านเทคโนโลยี  เลือกสิงคโปร์เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งในจำนวนนี้มี  57% เปิดสำนักงานในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ทั้งนี้  ภาคธุรกิจเทคโนโลยีได้รับการสนับสนุน
          เป็นอย่างดีจากรัฐบาลสิงคโปร์  ดังจะเห็นได้จากแคมเปญ Smart Nation ที่รัฐบาลสิงคโปร์ริเริ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี  2557
          ส่วนกรุงเทพฯ  กลุ่มบริษัทด้านอีคอมเมิร์ซ คอลเซ็นเตอร์  และไอที มีการเปิดตัวและขยายกิจการอย่างคึกคัก และมี แนวโน้มว่าจะเป็นแหล่งสำคัญของดีมานด์ในตลาดอาคารสำนักงานกรุงเทพฯ  ต่อไปในปีนี้
          นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยาเป็นอีกกลุ่มธุรกิจหนึ่งที่มีแนวโน้มใช้พื้นที่สำนักงานมากขึ้น  โดยเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 บีโอไอของไทยได้อนุมัติมาตรการส่งเสริมการลงทุนด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา  5 ปีสำหรับบริษัทผลิตภัณฑ์ยา  ในความพยายามส่งเสริมศักยภาพของไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ (Medical Hub) ของภูมิภาค   ส่วนที่ฟิลิปปินส์ อาคารวันเวิลด์เพลสในเขตโบโนฟาซิโอของ กรุงมะนิลา  มีบริษัทยาและบริษัทเวชภัณฑ์เช่าพื้นที่สำนักงานรายละ 1,000 ตารางเมตร  สำหรับสิงคโปร์ บริษัทยายักษ์ใหญ่รายหนึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการเจรจาเช่าระยะ 15  ปีในเขตนิคมธุรกิจวันนอร์ธ เพื่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา
          สำหรับในระยะ  12 เดือนข้างหน้า เจแอลแอลคาดว่า  ในบรรดาตลาดอาคารสำนักงานของ 17  เมืองในเอเชียแปซิฟิกที่เจแอลแอลศึกษา มี 13  เมืองที่มีแนวโน้มว่าค่าเช่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่เปลี่ยนแปลง  การขยายตัวของภาคธุรกิจต่างๆ  และการที่อาคารสำนักงานทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่กำลังจะสร้างเสร็จใหม่มีคุณภาพมากขึ้น  คาดว่าจะมีส่วนในการทำให้ค่าเช่าในปีนี้ปรับเพิ่มขึ้น
          ทั้งนี้ เมืองที่คาดว่าค่าเช่าสำนักงานจะปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ โอ๊คแลนด์ เมลเบิร์น  โอซากา บังกาลอร์ กรุงเทพฯ มุมไบ  ซิดนีย์  และเดลี ส่วนเมืองที่คาดว่าค่าเช่าสำนักงานจะไม่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ นครโฮจิมินห์ ฮ่องกง  มะนิลา โซล  และโตเกียว และเมืองที่ค่าเช่าสำนักงานมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ได้แก่ ปักกิ่ง จาการ์ตา  เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

แบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจ

บนช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ

Share On Line

คัดลอกบทความ