ส่อง8เทรนด์อสังหาฯ น่าจับตาส่งท้ายปี64สะท้อนดีมานด์ตลาดยุคใหม่ปีขาล
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในรอบปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงมากมายท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมที่มีบทบาทกับการ เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตทัศนคติต่อการอยู่อาศัยให้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยาวนาน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคใช้ชีวิตภายใต้บริบททางสังคมที่หลากหลายได้ดียิ่งขึ้น สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในแวดวงอสังหาฯ ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้ปรับตัวพัฒนา ผลิตภัณฑ์โดยให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น ชูจุดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีกว่า เพื่อดึงดูดกำลังซื้อจากผู้ที่กำลังมองหาบ้าน
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) ได้นำเสนอเทรนด์อสังหาฯที่น่าจับตามองในรอบปี 2564 สรุปทิศทางแนวโน้มที่อยู่อาศัยที่ผู้บริโภค ยุคใหม่มองหา เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่แท้จริงได้อย่างราบรื่น
1. การผสมผสานไลฟ์สไตล์ดิจิทัล (Digital Lifestyle Integration) ปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทในการยกระดับและรองรับการใช้ชีวิตยุคใหม่ให้สะดวกสบายการที่บ้าน/คอนโดฯ ใช้เทคโนโลยี Internet of Things (loT) ในการควบคุม อุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านนั้น นอกจากจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้นแล้ว ยังเพิ่ม ความอุ่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น
2. การอยู่อาศัยแบบยั่งยืน ตอบโจทย์คนหาบ้าน เมื่อผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ เทรนด์ความยั่งยืนโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดฯ ที่ผ่านมา ที่ผู้บริโภคต้องอยู่กับบ้านมากขึ้น จึงมองหาบ้านที่มาพร้อมฟังก์ชัน ประหยัดพลังงานและรักษ์โลก
ข้อมูลจากผลสำรวจ DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด เผยว่า คนไทยกว่า 9 ใน 10 (93%) ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยแบบยั่งยืนโดย มากกว่าครึ่ง (62%) ต้องการบ้าน/คอนโดฯ ที่มีระบบหลังคาโซลาร์เซลล์ เพื่อสร้างพลังงาน ทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า ตามมาด้วยบ้าน ที่มีระบบระบายความร้อน (58%) และฟังก์ชัน ดูดซับมลพิษภายในบ้าน (48%) นอกจากนี้หลายโครงการยังได้เพิ่มจุดบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลางรองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง
3. บ้านเพื่อผู้สูงอายุ หลายโครงการที่อยู่อาศัย มีการออกแบบและนำเสนอนวัตกรรมการสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกและราบรื่นยิ่งขึ้นและมีความร่วมมือกับโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสุขภาพ ในการเพิ่มบริการดูแลสุขภาพ ไว้รองรับ
4. ที่อยู่อาศัย Pet Friendly สำหรับคนรักสัตว์ เทรนด์สัตว์เลี้ยงถือเป็นอีกไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภค ผู้พัฒนาอสังหาฯ หันมาเจาะกลุ่มคนรักสัตว์ โดยเปิด ตัวโครงการคอนโดฯที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ พร้อมทั้งมีพื้นที่ส่วนกลางที่ให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
5. เทรนด์เช่ามาแรง ลดภาระค่าครองชีพ การชะลอตัวของเศรษฐกิจและการ แพร่ระบาดฯ ที่ยังมีความผันผวนอยู่ ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยออกไป ก่อน และวางแผนการเงินอย่างรัดกุม เลือกเก็บเงินสดไว้กับตัว ส่งผลให้เทรนด์การเช่าที่อยู่อาศัยกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
นอกจากนี้การเปิดประเทศและนโยบายจากภาครัฐจะสนับสนุนให้ Digital Nomad หรือผู้ประกอบอาชีพด้านดิจิทัลชาวต่างชาติ เลือกเข้ามาทำงานและพักอาศัยในไทยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้ตลาดเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตเช่นกัน
6. สร้างบรรยากาศแบบ Holiday at Home การใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น ทำให้เกิดแนวคิดการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ให้ความรู้สึก ของการพักผ่อน มีมุมพักผ่อนที่ได้ไกล้ชิดธรรมชาติสมาชิกในครอบครัวสามารถเลือกนั่งทำงานหรือเรียนออนไลน์ในบรรยากาศที่แตกต่างออกไปลดความจำเจ
7. สกุลเงินดิจิทัลกับโอกาส เป็นเจ้าของอสังหาฯ กระแสของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ในไทยน่าจับตามองและมีบทบาทมากขึ้นในหลายอุตฯ ไม่เพียงแต่ด้าน ฟินเทค (Fintech) เท่านั้น แต่รวมไปถึงในธุรกิจค้าปลีก ความบันเทิง และอสังหาฯ ใน ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้ในระยะเวลาไม่นาน ช่วยลดข้อจำกัดเหล่านี้ และเปิดโอกาสให้นักลงทุนรุ่นใหม่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น สามารถนำอสังหาฯ นี้ไปลงทุนขายต่อหรือปล่อยเช่าได้อีกด้วย
และ 8. Metaverse ยกระดับประสบการณ์ที่อยู่อาศัยบนโลกเสมือน เทรนด์มาแรงที่สั่นสะเทือนทุกชุรกิจส่งท้ายปี ได้แก่ Metaverse นวัตกรรมที่สร้างสรรค์และผสมผสานสภาพแวดล้อมของโลกจริงเข้ากับโลกเสมือนจริงให้กลายเป็นชุมชนโลกเสมือนจริงผ่านการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่รองรับการ เข้าถึงโลกเสมือนอย่าง Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) ถือเป็น แนวคิดที่จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลง ตลาดอสังหาฯ ไปไม่น้อย และยังนำไปใช้เพื่อยูกระดับการเยี่ยมชมที่อยู่อาศัยก่อนตัดสินใจ ซื้อแบบ Virtual Tour ในอนาคต
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
วันที่ : 27 ธันวาคม 2564