มหาเศรษฐีเอเชียแห่ซื้อคอนโดหรูกทม.
March 28, 2017
มหาเศรษฐีเอเชียแห่ซื้อคอนโดมิเนียมหรูกลางกรุงเทพฯ ผลจากการเปิดให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ ขณะผู้พัฒนาในและนอกประเทศจับมือร่วมศึกแย่งเค้กที่พักอาศัยตลาดบน
ความสนใจคอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุงเทพมหานครจาก มหาเศรษฐีจีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากหันมาสร้างที่พักอาศัยเพื่อเจาะตลาดระดับบน แทนคอนโดมิเนียมระดับรองลงมา ที่ตลาดอิ่มตัวแล้ว
แนวโน้มนี้เป็นผลจากการที่ไทยอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าถือกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมได้ โดยโครงการคอนโดมิเนียมเมื่อปี 2559 ตามแนวถนนสุขุมวิท ขายให้กับชาวต่างชาติครบทุกยูนิต ตามโควตา 49% ของห้องพักทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้อจากจีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น
นายเจมส์ พิทชอน ประธานกรรมการฝ่ายวิจัยและให้คำปรึกษาจากซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) บอกว่า หากมองในแง่ ตลาดในประเทศ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ มักเกิดขึ้นกับคนไทยที่มีฐานะดีก่อน และคนกลุ่มนี้กำลังย้ายจากคฤหาสน์ขนาดใหญ่ย่านชานเมือง มายังคอนโดมิเนียม และ อพาร์ตเมนท์ในใจกลางกรุงเทพมหานครมากขึ้น
กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่น่าสนใจ มากขึ้น เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวก และสถานที่ท่องเที่ยวในใจกลางเมืองมากขึ้น ดังนั้นโรงพยาบาล ร้านอาหาร ศูนย์กลางการชอปปิงที่ดีที่สุด จึงอยู่ในใจกลางเมือง และแรงงานคนรุ่นใหม่จำนวนมากก็ทำงานในย่านนี้
ทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม การตกแต่งภายในที่โอ่อ่าหรูหรา ทำให้การพัฒนาโครงการต่างๆ พุ่งเป้าไปที่ผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีฐานะร่ำรวย โดยตั้งราคาเฉลี่ยกว่า 300,000 บาทต่อ ตารางเมตร หรือกว่า 2 เท่าของราคาในตลาดระดับกลางภายในประเทศ
ส่วนโครงการล่าสุดของ แสนสิริ กลุ่มผู้พัฒนาอสังหา ริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของไทยรายหนึ่ง คือ โครงการมูลค่า 8,460 ล้านบาทบนถนนวิทยุ บริเวณใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่ราคาสำหรับห้องพักส่วนใหญ่จากทั้งหมด 77 ยูนิต อยู่ที่ระหว่าง 68-290 ล้านบาท ซึ่งครึ่งหนึ่ง ของยูนิตทั้งหมดขายออกไปตั้งแต่ก่อนเปิดตัว เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมถึง ห้องพักบนยอดตึก ที่ผู้ซื้อชาวฮ่องกงรายหนึ่งซื้อไปด้วยราคา 650 ล้านบาท
นายอภิชาติ ชูตระกูล หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) แสนสิริ กล่าวว่า บริษัทมีอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีที่สุดในประเทศ และอาจดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย เขายังแสดงความมั่นใจอีกว่า ยอดขายให้กับผู้ซื้อต่างชาติ จะทะลุเป้าหมาย 20% ที่ตั้งไว้ให้กับ โครงการนี้
อย่างไรก็ดี ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ ก็สนใจตลาดที่พักอาศัยหรูของ ไทยด้วย โดยที่ผ่านมา มีนักลงทุนหลายราย ตั้งบริษัทร่วมทุนกับนักลงทุนในประเทศเพื่อสร้างที่พักอาศัยสำหรับตลาดบน อย่างเช่น มิตซูบิชิ เอสเตท, มิตซุย ฟุโดซัง, ฮันคิว เรียลตี้ และชินวา กรุ๊ป
บรรยายใต้ภาพ
โครงการ 98 Wireless บนถนนวิทยุ ของแสนสิริ--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ