จับตาตลาดอสังหาฯใหม่ ธุรกิจ ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า
เจแอลแอล ชี้ที่อยู่อาศัยในเมืองขนาดเล็ก หนุนธุรกิจ “ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า” ตลาดอสังหาฯใหม่น่าจับตา ตอบโจทย์บุคคลทั่วไป-ผู้ประกอบการขนาดเล็ก
นายศรัณย์ คุณะกุล ผู้จัดการอาวุธโสฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา เจแอลแอล กล่าวว่าธุรกิจบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าในประเทศไทยยังเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใหญ่ ผู้ประกอบการในตลาดมีจำนวนไม่มาก ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก และหลักๆ เปิดให้บริการในกรุงเทพฯ และเมืองที่มีชาวต่างชาติอยู่จำนวนมาก อาทิ พัทยา และภูเก็ต
“เนื่องจากการเช่าห้องเก็บของเพื่อเก็บข้าวของส่วนตัว เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างใหม่สำหรับประเทศไทย ทำให้การมีอยู่ของธุรกิจประเภทนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก และมีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่ทำงานและพำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย”
โดยทั่วไป บริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า จะให้ผู้เช่าสามารถเข้าจัดเก็บหรือนำสิ่งของออกจากห้องได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยใช้คีย์การ์ด มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และจัดสรรเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าดูแล
การมีผู้ประกอบการจำนวนไม่มากทำให้การแข่งขันต่ำ ประกอบกับขนาดของธุรกิจของผู้ใบริการส่วนใหญ่ค่อนข้างเล็ก ทำให้ห้องเก็บของส่วนตัวในประเทศไทยมีค่าเช่าค่อนข้างสูง อาทิ ห้องขนาด 1.5-4.0 ตารางเมตรในกรุงเทพฯ มีค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,500 บาทต่อเดือน
“ค่าเช่าที่ค่อนข้างสูง และการที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เป็นปัจจัยที่ทำให้บริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่ายังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายในประเทศไทยมากนัก แต่ในระยะยาวเชื่อว่า ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในระดับโครงสร้างที่กำลังเกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดการให้บริการห้องเก็บของส่วนตัวเติบโต” นายศรัณย์กล่าว
ในขณะที่เมืองขยายตัวและขนาดที่อยู่อาศัยในย่านใจกลางเมืองมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ จะทำให้คนเมืองต้องการสถานที่นอกบ้านสำหรับจัดเก็บข้าวของส่วนตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ได้ใช้งาน อุปกรณ์กีฬา และอื่นๆ ที่ผู้เป็นเจ้าของไม่มีที่เพียงพอสำหรับจัดเก็บในที่พักอาศัยของตนเอง เปิดโอกาสให้มีความต้องการมากขึ้นสำหรับบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าที่มีความปลอดภัยและเข้าถึงได้สะดวก
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว สามารถเห็นได้จากเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก รวมถึงเอเชีย อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์ และโตเกียว ที่สังคมเมืองขยายตัว ประชากรมีรายได้สูง แต่ต้องอยู่ในที่อยู่อาศัยที่มีขนาดเล็กลง ที่อยู่อาศัยมีราคาแพงจึงไม่คุ้มที่จะใช้พื้นที่ในที่พักอาศัยเป็นสถานที่เก็บของ
นอกจากบุคคลธรรมดาทั่วไป ธุรกิจขนาดเล็กเป็นลูกค้าอีกกลุ่มที่ใช้บริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า เจ้าของธุรกิจในกลุ่มนี้ อาจต้องการสถานที่จัดเก็บสินค้าที่รอการขายหรือส่งมอบให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ ซึ่งสินค้าเหล่านี้ อาจไม่ได้มีจำนวนมากถึงขนาดที่ต้องเช่าโกดังจัดเก็บสินค้า
นายศรัณย์ เชื่อว่าตลาดไทย เมื่อความต้องการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าขยายตัว จะทำให้มีผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้น และมีแรงจูงใจในพัฒนาโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้การประหยัดต่อขนาด (economy of scale) สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถเสนอค่าเช่าที่ถูกลงได้ และทำให้การใช้บริการห้องเก็บของให้เช่าส่วนตัวได้รับความนิยมมากขึ้น
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
27 มิถุนายน 2560