QR Code

LINE Official

@interhome

หน้าหลัก ฝากขายบ้าน
ฝากขายที่ดินกับเรา
ติดต่อ ฝากซิ้อ
ฝากขายบ้าน ที่ดิน
ทีมงานมืออาชีพ

อนุมัติรถไฟไทย-จีนครม.ยัน4ปีเสร็จ/ค่าตั๋วกทม.-โคราช535บ.



อนุมัติรถไฟไทย-จีนครม.ยัน4ปีเสร็จ/ค่าตั๋วกทม.-โคราช535บ.

         นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 เห็นชอบให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ดำเนินโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย โดยระยะแรกช่วงกรุงเทพฯ-โคราช วงเงิน 179,413 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 ปี โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
          สำหรับการดำเนินการด้านก่อสร้างจะแบ่งเป็น 3 ช่วง ซึ่งครั้งนี้จะดำเนินการช่วงแรกระยะที่ 1 กรุงเทพฯโคราช, ระยะที่ 2 คือ โคราช-หนองคาย และระยะที่ 3 ช่วงแก่งคอย-มาบตาพุด โดยมีพื้นที่ที่ต้องเวนคืน 10-15% หรือ 2,815 ไร่ ประกอบด้วย ช่วงบางซื่อ ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ปากช่อง นครราชสีมา เพื่อให้สามารถเดินรถได้ความเร็วที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
          ทั้งนี้ ในช่วงแรก จะเดินรถรวม 6 ขบวน สามารถบรรทุกได้ 600 คนต่อขบวน ขับเคลื่อนเส้นทางกรุงเทพฯโคราช โดยใช้ระยะเวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 17 นาที คาดว่าในปีแรกที่เปิดดำเนินการ หรือ ในปี 2564 จะมีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 5,300 คนต่อวัน หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของปัจจุบันที่มีผู้โดยสารเส้นทางดังกล่าว 20,000 คน และคาดว่าในอีก 30 ปีข้างหน้า หรือปี 2594 จะมีผู้ใช้บริการ 26,800 คน และมีขบวนรถทั้งสิ้น 26 ขบวน ปล่อยขบวนทุก 35 นาที
          ส่วนอัตราค่าโดยสาร จะคิดเริ่มต้นที่ 80 บาทบวกเพิ่ม 1.8 บาทต่อกิโลเมตร เช่น กรุงเทพฯ-อยุธยา ค่าโดยสาร อยู่ที่ 278 บาท กรุงเทพฯ-ปากช่อง ค่าโดยสารอยู่ที่ 393 บาท กรุงเทพฯ-โคราช ค่าโดยสารอยู่ที่ 535 บาท ซึ่งเทียบเคียงกับค่าโดยสารในปัจจุบัน
          นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ด้านสัญญาประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนงานโยธา-ก่อสร้าง คิดเป็นสัดส่วน 75% ซึ่งผู้รับจ้างงานจะเป็นคนในประเทศ และคาดว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้างของคนไทยแน่นอน ส่วนสัญญาที่ 2 การวางระบบอาณัติสัญญา การควบคุม ซึ่งคิดเป็น 25% ของมูลค่าโครงการนั้น จะมี 3 สัญญาย่อย คือ การสำรวจการออกแบบ การปรึกษาควบคุมงานโยธา และระบบไฟฟ้า เครื่องกล ขบวนรถ จะเป็นการดำเนินการ ของจีน
          "สาเหตุที่เราต้องลงทุนเอง เนื่องจากหากแบ่งสัดส่วนจะต้องดำเนินการในรูปแบบการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาทำงานร่วมกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยดำเนินการมาก่อน นอกจากนี้ ทางการจีนยังพร้อมสนับสนุนและให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีแก่คนไทยเพิ่มเติมด้วย"
          นายกอบศักดิ์กล่าวว่า สำหรับในโครงการรถไฟไทย-จีน คาดว่า จะส่งผลให้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง กับประเทศอื่นในภูมิภาค และยัง สามารถเชื่อมเส้นทาง One belt One road (หนึ่งแถบเศรษฐกิจ หนึ่งเส้นทาง) ด้วย
          อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟนำไปสู่โอกาสทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ เชื่อมโยงกับเส้นทางสายไหมของจีนไปถึงยุโรป รวมทั้งเอเชียและอาเซียนเข้าด้วยกัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

แบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจ

บนช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ

Share On Line

คัดลอกบทความ