พีดีเฮ้าส์ หวังยอด 1.2 พันล้าน ชี้รับสร้างบ้านปี61ฟื้น
ตลาดรับสร้างบ้านไตรมาสแรกปี 61 ฟื้น ผู้ประกอบการรุกขยายตลาด “พีดีเฮ้าส์” ลุยเปิดสาขาใหม่ เล็งซื้อคืนสิทธิ์แฟรนไชส์หวังบุกตลาดศักยภาพ พร้อมพัฒนาระบบไอที หวังเพิ่มขีดแข่งขัน ดันรายได้ 1.2 พันล้าน
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจรับสร้างบ้านขณะนี้ปรับตัวดีขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมา พบว่า ผู้บริโภคมีความสนใจและความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่มากขึ้น จึงส่งผลดีต่อเนื่องมาถึงไตรมาสแรกนี้ ทั้งโอกาสในการตัดสินใจของผู้บริโภคและมูลค่าตลาดรวมที่ขยายตัว โดยพบว่าบรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านเริ่มมีความเคลื่อนไหวและเตรียมพร้อมรุกขยายตลาดในปีนี้
สำหรับพีดีเฮ้าส์ วางแนวทางธุรกิจปี 2561 จะกลับมาเปิดสาขาใหม่อีกครั้ง หลังจากชะลอการเปิดสาขาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเน้นลงทุนเปิดสาขาเองเป็นหลัก รวมทั้งขอซื้อสิทธิ์สาขาแฟรนไชส์จากผู้ลงทุนเดิมบางรายคืน เพื่อรุกขยายตลาดในจังหวัดที่มีศักยภาพด้วยตัวเอง
โดย พีดีเฮ้าส์ หลีกเลี่ยงแข่งขันเรื่องราคากับรายย่อย เน้นคุณภาพหรือบริการที่แตกต่าง มีจุดขายที่ชัดเจน คือ บ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายรวมเท่าปีก่อน ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างต่ำเมื่อพิจารณาจำนวนสาขาของพีดีเฮ้าส์ที่มีอยู่ทุกภูมิภาคเกือบ 30 แห่งในปัจจุบัน หรือหากเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่นที่มีสาขาไม่กี่แห่ง
“เราไม่ต้องการตั้งเป้ายอดขายเพื่อกดดันตัวเองมากนัก เพราะมองว่าปัจจัยหลายๆ อย่างเริ่มฟื้นกลับมาดีขึ้น ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภค”
อย่างไรก็ตาม ภารกิจหลักปีนี้บริษัทจะมุ่งปรับปรุงการบริหารจัดการภายในองค์กร ทั้งด้านบุคลากรและระบบปฏิบัติงานบนไอทีให้มีความทันสมัย เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างมีมาตรฐานสม่ำเสมอกัน และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค 4.0 ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว พร้อมมุ่งสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น จากเดิมผู้ประกอบการจะเน้นสื่อสารผ่านสื่อออฟไลน์หรือสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลัก แต่แนวโน้มปีนี้คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหันมาสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียเป็นสื่อหลัก
สำหรับ กิจกรรมการตลาดไตรมาสแรกนี้ บริษัทเตรียมเข้าร่วมงานอีเวนท์ออนไลน์ หรือ บ้านและวัสดุออนไลน์ 2561 (HBO Fair 2018) จัดโดยสมาคมไทยรับสร้างบ้าน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมการตลาดออนไลน์แนวใหม่ของภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน และเป็นการสื่อสารกับผู้บริโภคในวงกว้าง ถือเป็นความได้เปรียบของศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ที่มีเครือข่ายสาขาให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้โอกาสที่ผู้บริโภคจะสื่อสารและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น
นายพิศาล กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมายอมรับว่าธุรกิจได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ในต่างจังหวัด ประกอบกับกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายย่อยมีการแข่งขันตัดราคากันรุนแรง โดยเฉพาะตลาดบ้านสร้างเองในต่างจังหวัด ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายรวมของบริษัทต่ำกว่าเป้าหมาย
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/787790