แลนด์แอนด์เฮ้าส์จัดทัพลงทุนรุกอสังหา เช่า
ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 3 ปีก่อน ด้วยปัจจัยหนุนการเติบโตเศรษฐกิจที่ระดับ 4% การส่งออกและท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งตลาดหุ้นปรับขึ้นสูงตั้งแต่ต้นปี
นพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าประเมินภาพรวมที่อยู่อาศัยจดทะเบียนใหม่ปีนี้จะเติบโต 5-8% เทียบปี 2560 ที่ประมาณการที่อยู่อาศัยจดทะเบียนเพิ่ม อยู่ที่ 90,030 หน่วย ลดลง 14% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีจำนวน 104,628 หน่วย เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก 2560 ตลาดคอนโดมิเนียมอยู่ในภาวะชะลอตัว หลังจากนั้นฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง แต่คาดว่าทั้งปี 2560 กลุ่มคอนโด มีจำนวน 58,900 หน่วย ลดลง 19.2% เทียบปี 2559
จากแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยกลับมาเติบโตในปีนี้ บริษัทจึงเตรียมงบลงทุน 13,000 ล้านบาท ประกอบด้วยงบประมาณซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย 7,000 ล้านบาท และงบลงทุนอสังหาฯเพื่อการเช่า 6,000 ล้านบาท
แผนลงทุนตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ เปิดใหม่ 18 โครงการ มูลค่า 36,300 ล้านบาท แบ่งเป็น พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 16 โครงการ และต่างจังหวัด 2 โครงการ ที่เชียงใหม่และอยุธยา แบ่งเป็น บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 14 โครงการ ทาวน์เฮ้าส์ 7 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ประกอบไปด้วย The Ease พระราม2 มูลค่า 760 ล้านบาท , เดอะรูม สุขุมวิท 38 มูลค่า 3,200 ล้านบาท ,เดอะรูม พญาไท มูลค่า 3,900 ล้านบาท และ The Key เพชรเกษม มูลค่า 2,200 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่จะลงทุนรวม 18 โครงการในปีนี้ มีที่ดินในมือครบทุกแปลงแล้ว อย่างไรก็ตามพบว่าแนวโน้มราคาที่ดินปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วง 3 ปีที่ผ่านมาขยับในอัตราสูง ในทำเลย่านธุรกิจที่ระดับ 20-30%
“แนวโน้มราคาที่ดินปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3 ปีนี้ ส่งผลให้ต้นทุนที่ดินพัฒนาที่อยู่อาศัยของบริษัทขยับจาก 12% เป็น 20% ในปีที่ผ่านมา”
นพร กล่าวว่าสำหรับเป้าหมายยอดขายที่อยู่อาศัยปีนี้อยู่ที่ 31,000 ล้านบาท เติบโต 19% โดยมียอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 33,000 ล้านบาท โดยมีแบ็คล็อกราว 10,000 ล้านบาท ที่รอรับรู้รายได้ในช่วง 2 ปี
ทั้งนี้ ราคาเฉลี่ยที่อยู่อาศัยของบริษัทในปีนี้จะอยู่ที่ 7 ล้านบาทต่อหน่วย ขณะที่ปี 2560 อยู่ที่ 7.5 ล้านบาทต่อหน่วย เนื่องจากปีนี้มีสัดส่วนการเปิดทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากสัดส่วนยอดขายตามมูลค่าที่อยู่อาศัย ปีนี้บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด อยู่ที่ 68% ทาวน์เฮ้าส์ 9% และคอนโด 23%
ทางด้านแผนลงทุนธุรกิจอสังหาฯเพื่อการให้เช่า จำนวน 6,000 ล้านบาทในปีนี้ โปรเจคหลัก คือ เทอร์มินอล 21 พัทยา ที่จะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่ค้าปลีกและโรงแรม
นอกจากนี้จะใช้งบประมาณบางส่วนสำหรับเซ็นสัญญาเช่าที่ดินสวนชูวิทย์ บริเวณสุขุมวิท 10 สัญญา 30 ปี เพื่อพัฒนาอสังหาฯ เช่า ทั้งพื้นที่ค้าปลีก,โรงแรมและอาคารสำนักงาน พื้นที่รวม 1 แสนตร.ม. คาดใช้งบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่องในช่วง 3 ปีครึ่ง ที่จะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ
อดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่านอกจากนี้บริษัทได้ขยายการลงทุนอสังหาฯเช่า ประเภทอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐต่อเนื่อง โดยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ลงทุนซื้ออาคารอพาร์ตเมนต์มาปรับปรุงใหม่ 5 อาคาร ในซิลิคอนวัลเลย์ และล่าสุดเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ซื้ออาคารอพาร์ตเมนต์ ขนาด 168 ห้อง มูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ ในซานฟรานซิโก ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาลงทุนอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐไปแล้ว 550 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ได้รับผลตอบแทนดี ทั้งด้านอัตราค่าเช่าที่ปรับขึ้นได้ 5-7% ในปีที่ผ่านมา
อีกทั้งหลังจากปรับปรุงและปล่อยเช่าได้ระยะ 3 ปี สินทรัพย์มีราคาเพิ่มขึ้น สามารถขายทำกำไรได้ดี เห็นได้จากบริษัทซื้ออาคารอพาร์ตเมนต์ มูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ เมื่อนำมาปรับปรุงและปล่อยเช่าไประยะหนึ่ง สามารถขายได้ในราคา 18 ล้านดอลลาร์ ปีนี้กำลังพิจารณาลงทุนอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐเพิ่มเติม รวมทั้งโอกาสขายอาคารที่ปรับปรุงแล้ว หากได้ผลตอบแทนที่ดี
ปีนี้วางเป้าหมายรายได้จากธุรกิจอสังหาฯเพื่อการเช่า 3,700 ล้านบาท เติบโต 19%
ในส่วนของการระดมทุนปีนี้ บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้จำนวน 14,000 ล้านบาท ช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 4 คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/789139