"อภิศักดิ์"จี้แบงก์ชาติคุมแบงก์พาณิชย์ปล่อยกู้เสี่ยงมากขึ้น ยันไม่มีภาวะฟองสบู่อสังหาฯ เหตุ ผู้ประกอบการยังเดินหน้าลงทุน ขณะที่นโยบายรัฐยังต้องการให้คนจน มีบ้านต้นทุนต่ำ ดังนั้นดอกเบี้ยนโยบายจึงไม่ควรปรับขึ้น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ออกมา ส่งสัญญาณให้สถาบันการเงินระมัดระวัง หนี้เสียอสังหาริมทรัพย์ว่า ธปท.ในฐานะกำกับดูแลการสถาบันการเงินควรเข้าไปวิเคราะห์สาเหตุสำคัญของการเกิดหนี้เสีย เป็นเพราะเหตุใดระหว่างผู้กู้ไม่สามารถผ่อนชำระได้หรือสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อที่เสี่ยงมากเกินไป อย่างไรก็ตามในมุมกระทรวงการคลัง หนี้เสียที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิดในภาคของประชาชน และ ไม่น่าจะเป็นเพราะว่ารายได้ ไม่ดี เนื่องจากเศรษฐกิจค่อยๆดีขึ้น เพราะฉะนั้นลูกค้าน่าจะมีรายได้มาชำระหนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะแตกต่างจากอดีตที่เกิดความเสียหาย เป็นเพราะประชาชนตกงาน แต่ตอนนี้ไม่ได้เกิดสถานการณ์อย่างนั้นเลยเศรษฐกิจค่อนข้างมั่นคงดี "แบงก์ชาติเป็นคนกำกับก็ต้องไปกำชับ ให้ดีขึ้น แบงก์ชาติสามารถกำหนดเรื่องระดับ การปล่อยสินเชื่อต่อหลักทรัพย์ได้ ถ้าดูว่าสถานการณ์ไม่ดีก็สามารถปรับลดลงมาได้" ส่วนโครงการบ้านผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาลที่จ่ายค่าผ่อนเดือนละ 2 พันบาท จึงเป็นเหตุผลว่าดอกเบี้ยนโยบายถ้าไม่จำเป็นไม่ควรปรับขึ้น เพราะขยับแล้ว ค่าผ่อน 2 พันบาทอยู่ไม่ได้
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ อสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เห็นสัญญาณฟองสบู่ เพราะถ้าเห็นสัญญาณฟองสบู่ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งหลายต้องลดซัพพลายลง แต่ครั้งนี้กลับสร้างมาเยอะมาก และไม่ได้เป็นการเก็งกำไร ในเมื่อบริษัทอสังหาฯขายเอง ถ้าเก็งกำไรจะขายให้ขาดทุนทำไม แสดงว่าเขามองเห็นความต้องการ
ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ธปท.อาจส่งสัญญาณเตือนสถาบันการเงินว่า ปล่อยสินเชื่อ Loan To Value (LTV) เกินหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นอาคารแนวราบ หรือห้องชุด ถ้าให้ LTV เกินหรือซื้อยกล็อตก็อาจทำให้มองว่าพวกนี้เป็นดีมานด์แท้หรือเปล่า "ไทยมีบทเรียนเรื่องอสังหาริมทรัพย์มามากแล้ว ตัวธนาคารเองก็ต้องระวัง คนที่ กำกับ คือ ธปท.ก็ต้องลงมาดูรายละเอียด ขณะที่แค่หนี้เสียอสังหาฯขยับแค่จุดทศนิยม เพื่อให้ระวัง พวกที่เข้ามาจะใช้วิธีอย่างนี้ เป็นการส่งสัญญาณให้ต่างชาติหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ โดยเฉพาะที่เป็นคอนโด ที่เป็น Free hold ไม่ถึง 49% หรือที่เป็น Lease hold ถือได้ไม่จำกัด ก็ต้องระวัง คนที่ไปขาย ขายยกล็อตแล้วลดให้เขาเยอะๆ ซึ่งพวกนี้อาจซื้อเพื่อลงทุน แต่ถ้ามากกว่าลงทุนก็ไม่ดี"
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ปรับตัวลงแรงวันนี้ เกิดจากความกังวลประเด็น ที่อาจมีการคุมเข้มการปล่อย สินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งในเบื้องต้น เห็นว่าเป็นผลกระทบในเชิง sentiment เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากมีการออกมาตรการคุมเรื่องการปล่อยสินเชื่อจริง จะเป็น เรื่องระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ขอกู้เป็นหลัก ไม่ใช่การคุมเรื่องการปล่อยสินเชื่อโครงการอสังหาฯของผู้ประกอบการ แต่แน่นอนว่า หากมีการคุมเรื่องการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ก็อาจกระทบ หากผู้ซื้อที่อยู่อาศัย กู้ไม่ผ่าน แต่เชื่อว่า ผลกระทบดังกล่าวต่อกำไรของบริษัทในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จะจำกัด
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
26 กันยายน 2561