"ประจิน" เร่งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู สรุป 3 ประเด็นแล้วให้ใช้ระบบโมโนเรล ร่วมลงทุนพีพีพี และภาครัฐรับผิดชอบเวนคืนโครงการละประมาณ 6 พันล้านบาท สั่งรฟม.จัดทำรายละเอียดให้ชัด พร้อมประเมินความเสี่ยงทั้งรัฐ-เอกชน ก่อนเข้าครม. 5 สิงหาคมนี้
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เส้นทางลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง และสายสีชมพู เส้นทางแคราย – มีนบุรี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมาได้ข้อสรุปที่ชัดเจน 3 ประเด็นคือ 1.จะดำเนินการก่อสร้างเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือรถไฟฟ้าโมโนเรล 2. จะใช้การลงทุนรูปแบบความร่วมมือภาครัฐ-ภาคเอกชน (PPP) และ 3.เห็นชอบให้ภาครัฐรับผิดชอบในการเวนคืนที่ดินมูลค่าโครงการละประมาณ 6 พันล้านบาท
"ได้สั่งให้รฟม.ไปจัดทำรายละเอียดของตัวเลขงบประมาณที่จะเวนคืนที่ดิน ค่าก่อสร้างด้านงานโยธาและเดินรถสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วง ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง และสายสีชมพูช่วงแคราย - มีนบุรี ตามที่ประชุมสรุปได้ 3 ประเด็นนั้นให้ไปจัดทำรายละเอียดของตัวเลขงบประมาณที่จะเวนคืนที่ดิน ค่าก่อสร้างด้านงานโยธาและเดินรถให้ชัดเจน พร้อมกับระบุว่าภาครัฐและเอกชนจะรับความเสี่ยงเท่าไหร่ ตามรูปแบบ PPP ก่อนจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ทั้ง 2 เส้นทาง และหากล่าช้าไม่ควรเกิน 30 วันเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาและเปิดประมูลที่คาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2559"
ทั้งนี้ในส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีภายในสัปดาห์นี้จะให้รฟม.ลงพื้นที่ร่วมกับฝ่ายข้อมูลและฝ่ายปฏิบัติการของกระทรวงกลาโหมและเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเจรจากับประชาชนที่ได้ผลกระทบย่านชุมชนประชาสงเคราะห์ เพื่อสร้างความเข้าใจและดูปัญหาความเดือดร้อนอย่างเป็นระบบ พร้อมกับเตรียมรับมือกรณีประชาชนไปดำเนินการฟ้องร้องด้วย ซึ่งคาดว่าจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในช่วงหลังเดือนสิงหาคมนี้ แต่ยังไม่สามารถระบุวันได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวอีกว่าสำหรับความคืบหน้าโครงการรถเมล์ฟรี-รถไฟฟรีนั้นกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอการต่ออายุมาตรการดังกล่าวนี้ตามเกณฑ์เดิมไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2558 ซึ่งได้สั่งเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อสรุปให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 14 กรกฎาคม นี้ เพื่อเสนอให้ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า
"โครงการรถเมล์ฟรี-รถไฟฟรีเกณฑ์ใหม่ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข้อสรุปผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร ทั้งในส่วนของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ได้รับการลดหย่อนค่าโดยสาร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติและต้องหารือกับกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการคลัง ว่าผู้มีรายได้น้อยเป็นกลุ่มบุคคลใด"
ทั้งนี้ในส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่รอบที่ 2 อีก 5% นั้นยืนยันว่าจำเป็นที่ต้องเลื่อนระยะเวลาการปรับขึ้นออกไป เพราะผลการประเมินความพึ่งพอใจของผู้โดยสารยังต่ำกว่า 50% และขอเวลาเพื่อทำการประเมินใหม่ให้ละเอียดมากขึ้น โดยจะเพิ่มการจ้างนักศึกษากับประชาชนบางกลุ่ม เพื่อทำการสุ่มประเมิน และจะนำข้อมูลมารวมกับการประเมินจากแอพพลิเคชันก่อนส่งผลการประเมินกับกระทรวงคมนาคมพิจารณาในวันที่ 15 ตุลาคม 2558 และจะทำการวิเคราะห์ รับรองผลการประเมินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ หากผลการประเมินเกิน 75% ก็จะทำการปรับขึ้นค่าโดยสารรอบที่ 2 อีก 5% ตามที่ตกลงไว้ แต่หากไม่ถึงก็ต้องมีการหารือกันใหม่ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,070 วันที่ 16 - 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558