แอทเซท ไฟว์ ดีเวลลอปเม้นท์ เจาะย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เปิดโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ มูลค่า 1,800 ล้านบาท ทำเลกรุงเทพฯ โซนฝั่งตะวันออก
ในช่วงที่ผ่านมามีดีเวลอปเปอร์หลายรายไม่ว่าจะบริษัทในและนอกตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ หันมาพัฒนาโครงการเพื่อรองรับการขยายตัวของผู้อยู่อาศัยในแถบนี้มากขึ้น ซึ่งจากจำนวนการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินสำหรับบ้านเดี่ยวในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ต้นปีจนถึงไตรมาส 2 ของปี 2561 พบว่าทั้งหมดมีจำนวนการออกใบอนุญาตถึง 433 ราย โดยการออกใบอนุญาตดังกล่าวในโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกมีมากถึง 271 ราย ซึ่งคิดเป็น 63% ของทั้งหมด
สำหรับบริษัทได้มีการซื้อที่ดินในย่านนี้เมื่อปี 2559 ซึ่งขณะนั้นราคาที่ดินขายทั่วไปที่ 7 หมื่นบาท/ตารางวา (ตร.ว.) ปัจจุบันราคาที่ดินขายอยู่ที่ 1-1.5 แสนบาท/ตร.ว. โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ถือว่าเป็นบ้านเดี่ยวแบบโมเดิร์นระดับลักซ์ชัวรี่โครงการแรกๆ ในโซนพระราม 9-ศรีนครินทร์ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเฉพาะระดับบน ซึ่งโครงการอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การค้า ในส่วนของตัวบ้านออกแบบโดยให้ความสำคัญกับแสงธรรมชาติ ภายในเน้นความโปร่งของเพดาน 3.1 เมตร โดยหลังจากการเปิดจองรอบพรีเซลในช่วงต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาทหรือราว 20 ยูนิต
ทั้งนี้ โครงการ วนา เรสซิเดนซ์ มีพื้นที่โครงการประมาณ 20 ไร่ จำนวน 69 หลัง ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 400-492 ตารางเมตร (ตร.ม.) กับการวางบ้านด้วยรูปแบบคลัสเตอร์ โดยแต่ละคลัสเตอร์มีเพียง 4 หลัง พร้อมที่จอดรถ 4 คัน รวมมูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท หลังเปิดพรีเซลเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 500 ล้านบาท หรือประมาณ 30% และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13-14 ต.ค.นี้ คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปี 2562
นอกจากนี้ แผนการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากธุรกิจอสังหาฯ ต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางออกที่จะทำให้อยู่รอดได้ คือ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งสามารถระดมเงินทุนได้หลายรูปแบบ ขณะนี้ได้ที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ด้านแผนการลงทุนของบริษัทนั้นจะดำเนินการไปตามทิศทางของตลาด โดยปัจจุบันอุปทานคอนโดมีสูง ผู้ประกอบการหลายรายหันมาพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น รวมไปถึงบริษัทด้วย แม้ว่าที่ดินใกล้เมืองจะหายาก แต่ก็ยังพอมีเหลือในการพัฒนา เพราะมีทำเลใหม่จากถนนตัดใหม่ใกล้ใจกลางเมืองตัดผ่านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องมีการสำรวจว่าซัพพลายในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร โดยหลักการซื้อที่ดินนั้นขึ้นอยู่กับการวางแผนของแต่ละราย โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่นั้นไปพัฒนาทำเลไหนส่วนใหญ่จะขายหมด ส่วนรายกลาง-เล็กต้องมีความแม่นยำในทำเลที่จะพัฒนาให้มาก
ศุภโชค กล่าวอีกว่า ปีหน้าบริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างน้อย 2 โครงการ คือ การนำที่ดินพื้นที่ 16 ไร่ บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) เยื้องกับโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ มาพัฒนาโครงการแนวราบต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบและศึกษาข้อมูลว่าจะพัฒนาภายใต้แบรนด์ "วนา เรสซิเดนซ์" หรือแบรนด์ใหม่ หากเป็นแบรนด์วนาฯ จะสามารถพัฒนาได้ประมาณ 51 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,600 ล้านบาท ส่วนอีกแปลงมีแผนจะพัฒนาย่านใจกลางเมือง อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน
ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน หากมีการพัฒนาก็จะเป็นอาคารสูงกว่า 20 ชั้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ทางครอบครัวยังมีที่ดินสะสมในย่านรัชดาภิเษกเหลืออีกประมาณกว่า 10 ไร่ แต่ยังไม่มีแผนนำออกมาพัฒนา ซึ่งต้องรอจังหวะและโอกาสอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 นี้ คาดว่าแอสเซท ไฟว์ฯ และบริษัทในเครือจะสามารถทำยอดขายได้ 1,000 ล้านบาท และตัวเลขดังกล่าวจะไปรับรู้รายได้ในปี 2562
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
10 ตุลาคม 2561