จับตาหนุ่มสาวชาวฮ่องกง-จีน เข้ามาลงทุนอสังหาฯในไทย หวังทำกำไรเพื่อสบโอกาสเก็บเงินที่ได้ไปซื้ออสังหาฯในบ้านเกิด เผยทุนจีนซื้อห้องชุด "คอนโดเมโทรสกาย ประชาชื่น" ของ PF กว่าพันยูนิต ด้านผู้บริหาร เอเพ็กซ์ ชี้จีนหายกระทบท่องเที่ยวไทยไม่มากนักเพราะมีนักท่องเที่ยวอินเดีย รัสเซียชดเชย
รายงานดัชนีชี้วัด Centa-City Leading Index ซึ่งเป็นมาตรวัดตลาดที่อยู่อาศัยของเมืองฮ่องกง ระบุว่า ไทยเป็นจุดหมายที่นักลงทุนจากฮ่องกงและจีน เบนเข็มมุ่งลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯประเทศไทย เนื่องจากราคาเทียบแล้วเพียงหนึ่งในห้าของฮ่องกง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ราคาที่อยู่อาศัยในฮ่องกงเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 28 เดือน แม้จะลดลงร้อยละ 4 ในช่วง 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ชาวฮ่องกงต้องเก็บเงินเป็นเวลานานกว่า 19 ปี จึงจะสามารถซื้อบ้านในเมืองได้
นายคาลวิน ชาน วัย 35 ปี นักธุรกิจรายหนึ่ง ระบุว่า ได้มาซื้อห้องชุดขนาด 25 ตร.ม. (ประมาณ 270 ตารางฟุต) ในโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน กรุงเทพฯ ราคา 580,000 เหรียญฮ่องกง (ราว 2,448,923 บาท) และด้วยงบประมาณนี้ไม่มีทางที่จะซื้อห้องชุดในฮ่องกงได้
หรือแม้แต่โครงการคอนโดเมโทรสกาย ประชาชื่น พัฒนาโดยบริษัท บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF จำนวน 1,320 ยูนิต ซึ่งขายให้แก่ผู้ซื้อจากฮ่องกงจำนวน 15% อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟบางซื่อ สถานีรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อคุนหมิง ในมณฑลยูนนานทางตอนใต้ของจีน กับกรุงเทพฯ ผ่านประเทศลาว
คีธ หว่อง หัวหน้าโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ Queens International Real Estate ซึ่งมุ่งเน้นการขายอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในไทยกว่า 20 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา ทุกเดือนเราขายได้มากกว่า 100 หน่วย ผู้ซื้อระหว่างอายุ 28-35 ปี ซื้อเพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุน
แคร์รี่ ลอว์ ผู้บริหารและผู้อำนวยการ Juwai.com ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาอสังหาฯในต่างประเทศที่ใหญ่สุดของประเทศจีน เปิดเผยว่า ห้องชุดอพาร์ตเมนต์ประมาณ 15,000 ห้อง ในกรุงเทพฯ ได้มีการจับจองขายให้กับผู้ซื้อจากจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงในปีนี้
นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานกรรมการ บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวไทยในปี 2561 ยังเติบโตได้ดี โดยคาดว่าทั้งปี 9-10% แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบมากนัก เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาชดเชย อาทิ อินเดีย ที่หันมานิยมเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น รวมไปถึงชาวรัสเซียที่เริ่มกลับมาท่องเที่ยว โดยคาดว่าปี 61 นี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวไทยจำนวน 36 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 61 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว 33 ล้านคน ทำให้อัตราการเข้าพักโรงแรมในภูเก็ตเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 80%
จากแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว บริษัทจะเน้นไปที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมีอัตราการเติบโตที่ดี อาทิ ภาคใต้ ภูเก็ต กระบี่ พังงา และพัทยา เป็นต้น โดยจะพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส คอนโดมิเนียมหรูและโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ภายในโครงการเดียวกัน ให้กลุ่มนักลงทุนเข้ามาซื้อห้องชุดเพื่อให้โรงแรมบริหารการปล่อยเช่า รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
28 พฤศจิกายน 2561