ทุนยักษ์-นักลงทุนรายย่อยจีน บุกตลาดอสังหาฯไทย แม้ค่าหยวนร่วง เผยมาแล้ว21 รายร่วมทุนไทย มูลค่า 2 แสนล้าน โฟกัสแนวรถไฟฟ้า สุขุมวิท-รัชดาฯ ระบุ 50% เกิดซัพพลายคอนโดฯปูดรับทุนจีน
แม้สัญญาณธุรกิจท่องเที่ยวช่วงปลายปีค่อนข้างซบ จากยอดนักท่องเที่ยวจีนลดฮวบ แต่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คลื่นนักลงทุนจีนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยว่าอสังหาริมทรัพย์ไทยมีเสน่ห์ที่ "ผลตอบแทนดี ขายต่อง่าย ราคาถูก" เมื่อเทียบกับฮ่องกงหรือสิงคโปร์ หรือประเทศที่พัฒนาแล้วก็ตาม กลายเป็นแรงซื้อที่ช่วยพยุงตลาดอสังหา ริมทรัพย์ไทยไม่ให้ทรุดตัวตามกำลังซื้อในประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ครัวเรือน
ขณะยักษ์ใหญ่บริษัทคิงไวกรุ๊ปฯ ซื้อกิจการบริษัท เคปเปลไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) พัฒนาทั้งแนวสูงแนวราบทุกทำเล ปัจจุบันมีโครงการทั้งในกรุงเทพ ฯ และเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นต้น
การเข้ามาของนักลงทุนหรือผู้ประกอบการสัญชาติจีน เพราะมีความมั่นใจไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน อย่างไรก็ตาม น่ากังวลสำหรับผู้ประกอบการไทย เพราะผู้ประกอบการสัญชาติจีนหลายรายมีเงินทุนมหาศาล และหลายบริษัทมีฐานของเงินทุนอยู่ที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายเงินทุนมาลงทุนในประเทศไทยได้รวดเร็วและคล่องตัว นอกจากนี้พวกเขายังมีกำลังซื้อที่ค่อนข้างมั่นใจว่าโควตา 49% ของชาวต่างชาติในโครงการคอนโดมิเนียมนั้น พวกเขาสามารถปิดการขายได้ในเวลารวดเร็ว เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการไทยควรตระหนักถึงการแข่งขันในอนาคต อาจจะรุนแรงกว่าเดิม ถ้ามีผู้ประกอบการสัญชาติจีนรายใหญ่เข้ามาลงทุนมากกว่าปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ในซีกของนักลงทุนประเภทซื้อเก็งกำไร ส่วนใหญ่จะมีโบรกเกอร์พาทัวร์ ทั้งตั้งโต๊ะ ตามเมืองต่างๆ ของทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย จ่ายเงินกันในประเทศของตนเอง รวมทั้งผู้ประกอบการไทยด้วยเช่นกันที่ ตั้งโต๊ะขายยังเมืองต่างๆให้กับลูกค้าจีน เนื่องจากมีกำลังซื้อมากกว่าชาติอื่น ขณะเดียวกัน ก็พานักลงทุนทัวร์โครงการ บางส่วนซื้อผ่านเว็บไซต์ ขณะราคา อาจบวก แพงกว่า ขายให้กับคนไทย ประมาณ 1-2 เท่าตัว สำหรับรายที่ ซื้อลงทุน หากผลตอบแทนไม่ดีตามที่โฆษณาชวนเชื่อก็สามารถทิ้งโอนได้ทันที และเลือกซื้อทำเลใหม่ มีบางรายซื้อ 3 เดือน ทิ้ง และหาซื้อใหม่เพื่อทำกำไร โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวของจีน-ฮ่องกง เนื่องจาก คอนโดมิเนียมใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี จึงจะโอน และมีให้เลือกหลายโครงการ แต่หากทำเลไหนดี อาจใช้นอมินี โดยดูจากการจดทะเบียนโอน ที่สำนักงานที่ดินหากใช้ในนามนิติบุคคล ทำให้คอนโดมิเนียมบางแห่งอาจมีคนจีนซื้อทั้งโครงการ
ประมาณกว่า 10 ราย สำหรับภาพรวมของตลาดจีนเริ่ม 3-4 เดือน ยอมรับว่าตลาดจีนไม่สู้ดีนักจากค่าเงินหยวนอ่อน แต่ที่น่ากังวลกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไร หากไม่พอใจอาจไม่โอนเพราะคอนโดฯใช้เวลาก่อสร้างนาน 2 ปี
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
6 ธันวาคม 2561