"ธอส." พร้อมปลดล็อกช่วยชาวบ้าน ยันติดเครดิตบูโรกู้ได้ "โครงการบ้านล้านหลัง" แถมใจดีผ่อนปรนเงื่อนไขให้ใช้ค่าเช่าบ้าน ยอดผ่อนดาวน์เป็นหลักฐานกู้ พร้อมเปิดโครงการ ธอส.โรงเรียนการเงินช่วยคนจนสร้างประวัติการเงินต่อ ชี้ขอเวลา 2 เดือน สรุปเคาะขยายวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท

ตามที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดให้ประชาชนและผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศยื่นจองสิทธิร่วมโครงการ "บ้านล้านหลัง" เพื่อขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกับธนาคารเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ โดยสามารถผ่อนนานสูงสุด 5 ปี ปรากฏว่ามียอดจองเข้ามาอย่างถล่มทลายกว่า 1.3 แสนราย วงเงิน 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 หมื่นล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมาตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ขณะนี้ ธอส.กำลังตรวจสอบรายชื่อผู้ยื่นจองและจะประกาศรายชื่อผู้จองสิทธิบนเว็บไซต์ ธอส. www.ghbank.co.th ได้ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. นี้ เพื่อทำการนัดวันเข้ามายื่นเอกสารขอสินเชื่อกับสาขาธนาคารรอบแรกตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. ปีหน้าเป็นต้นไป วงเงิน 30,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 20,000 ล้านบาทจะเรียกเข้ามายื่นเอกสารขอสินเชื่อภายใน 90 วัน

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าผู้จองสิทธิที่มีรายชื่อติดบัญชีเครดิตบูโรยังมีสิทธิเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลังได้เพราะธนาคารจะผ่อนปรนโดยพิจารณาจากความสามารถการชำระหนี้และประวัติการกู้เป็นรายบุคคลไปนอกจากนี้ ธอส.ยังเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีเอกสารไม่เพียงพอหรือขาดเอกสารการเงินที่ชัดเจน ให้นำหลักฐานการชำระค่าเช่าบ้านหรือผ่อนชำระเงินดาวน์บ้านไม่น้อยกว่า 12 เดือนมาประกอบการพิจารณาเพื่อคำนวณรายได้เพิ่มได้ ขณะเดียวกันยังจัดโครงการ ธอส.โรงเรียนการเงิน ช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีประวัติทางการเงินซึ่งถ้ามีประวัติการออมสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 9 เดือนสามารถใช้เป็นหลักฐานที่มาของรายได้หรือนำค่าเช่าวงเงินที่ผ่อนชำระเงินดาวน์ที่อยู่อาศัยมานับรวมเป็นการออมได้ด้วย

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่าส่วนการขอ กระทรวงการคลังพิจารณาขยายวงเงินสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังจะต้องรอให้ธนาคารตรวจสอบคุณสมบัติผู้กู้เสร็จก่อนว่ามีผ่านตามหลักเกณฑ์หรือมีความสามารถการผ่อนชำระมากน้อยแค่ไหนเพราะแต่ละคนที่เข้ามายื่นกู้อาจต้องการวงเงินไม่ถึง 1 ล้านบาทก็ได้ ซึ่งจาก นี้จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนเพื่อตรวจรายละเอียดผู้ยื่นกู้โดยแยกเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน และเกิน 25,000 บาทต่อเดือนเพื่อดูว่ากลุ่มไหนขาดเหลือเท่าไร และจำเป็นต้องขยายวงเงินหรือไม่ก่อนนำไปเสนอกระทรวงการคลังอีกครั้งโดยยืนยันว่าการขยายวงเงินบ้านล้านหลังจะเน้นให้กับผู้ที่มาจองสิทธิชุดเดิมก่อนและยังไม่มีนโยบายเปิดให้จองรอบใหม่แต่อย่างใด

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

26 ธันวาคม 2561