QR Code

LINE Official

@interhome

หน้าหลัก ฝากขายบ้าน
ฝากขายที่ดินกับเรา
ติดต่อ ฝากซิ้อ
ฝากขายบ้าน ที่ดิน
ทีมงานมืออาชีพ

มาตรการอสังหาฯฟื้นกำลังซื้อคาดยอดขายคอนโดฯกทม.พุ่ง20-30%



นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 เปิดเผยถึงผลหากรัฐบาลมีการออกมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า จะส่งผลดีต่อภาพรวมที่อยู่อาศัย ซึ่งเราอยากให้มีมาตรการออกมา ซึ่งคาดว่าจะทำให้ยอดขายคอนโดฯที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30% จากเดิมจะเกิดยอดขายทั้งปีที่ 50,000 หน่วย เพิ่มเป็นอย่างน้อย 60,000 หน่วย

          สำหรับตลาดคอนโดฯในกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาสที่ 1 มีอุปทานคอนโดฯเกิดใหม่ในตลาดทั้งสิ้น 11,300 หน่วย จาก 30 โครงการ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 20% โดยทำเลที่มีการเปิดตัวของคอนโดฯ มากที่สุด ยังคงเป็นพระโขนง สวนหลวง แบริ่ง (2,400 หน่วย, 21%)

          ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดหลายประการ  เช่น คอนโดฯที่เกิดใหม่ไตรมาสนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดฯกลุ่มซิตี้คอนโด ที่มีราคาต่อตารางเมตร(ตร.ม.)ไม่เกิน 75,000 บาท และ ตลาดกลาง หรือ mid market ที่มีราคาต่อตร.ม.ไม่เกิน 100,000 บาทรวมกันมากถึง 75% ของจำนวนหน่วยที่เปิดใหม่ทั้งหมด (ประมาณ 8,500 หน่วย)

          นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการเอง ความเชื่อมั่นในตลาดสำหรับผู้ประกอบการใหม่ก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยบางรายเป็นผู้ประกอบการรายเล็กที่เข้ามาเริ่มทำโครงการเป็นครั้งแรก เห็นได้จากสัดส่วนของผู้ประกอบการใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มีถึง 47% ซึ่งโดยปรกติแล้วจะอยู่ในสัดส่วนประมาณ 30% เท่านั้น

          หากจะกล่าวถึงการปรับตัวของตลาดอสังหาฯ หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่า การปรับตัวของราคายังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดมากกว่าในแต่ละช่วงเวลา จะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะกระตุ้นธุรกิจ หรือลดความร้อนแรงของธุรกิจมากกว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากการเลือกตั้ง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันต่างชาติน่าจะมีมากขึ้น น่าจะเห็นการลงทุนจากต่างชาติ เพิ่มขึ้น ผลจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่จะทำให้มี การกำหนดราคาประเมินคอนโดฯใหม่ในปี 63 จะทำให้ตลาดมีความคึกคักมากขึ้นในแง่ของคอนโดฯมือสอง

          นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ในไตรมาสแรก บริษัทสามารถสร้างยอดขายจาก 2 โครงการใหม่ที่เปิดตัว ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ และ โครงการ บริทาเนีย วงแหวน-หทัยราษฎร์ รวมกว่า 5,600 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับเป้าเปิดขายโครงการแนวราบ หลังจากโครงการแบรนด์ บริทาเนีย ได้รับการตอบรับที่ดี โดยวางเป้าเพิ่มจาก  6,000 ล้านบาท เป็น 8,000 ล้านบาท

          นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า มาตรการที่จะออกมา จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะมูลค่าการโอน กรรมสิทธิ์อสังหาฯในช่วงที่มีมาตรการนั้น จะเพิ่มขึ้น แบบชัดเจน โดยคิดเป็นเกือบ 10% ของ GDP ของประเทศไทย

          นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการ LTV ส่งผลให้การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับสถาบันการเงินยากขึ้น และกระทบถึงการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมากพอสมควร ประกอบกับปัจจัยเรื่องด้านการเมือง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ชะลอตัวลง ดังนั้น การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงน่าจะส่งผลทางด้านจิตวิทยาต่อผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ และความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอยู่แล้วให้ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น

 

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา

23 เมษายน 2562

แบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจ

บนช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ

Share On Line

คัดลอกบทความ