MBK เล็งทบทวนเป้าหมายธุรกิจปี 2563 หลังไวรัสโคโรนาระบาด กระทบธุรกิจโรงแรม ส่วนธุรกิจศูนย์การค้ามีผู้ใช้บริการลดลงไปราว 10% หวังสถานการณ์กลับสู่ปกติภายใน 2 เดือน เดินหน้าสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ พื้นที่ 20,000 ตารางเมตร มูลค่า 500 ล้านบาท ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เล็งโอนโครงการมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท แถมตุนที่ดินในมือกว่า 1 พันไร่ นำพัฒนาพืชเกษตร สร้างรายได้เพิ่มให้แก่บริษัท

          นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมทบทวนเป้าหมายธุรกิจปี 2563 หลังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจศูนย์การค้า โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก อัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) โรงแรมในเครือปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างเช่นอัตราการเข้าพักของโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ปรับตัวลดลงไปมาก จากปกติแล้วช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ จะอยู่ที่ 80%

          ทั้งนี้ผลกระทบดังกล่าวเป็นไปตามภาพรวมทั้งอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามกลุ่มลูกค้าของบริษัทมีความหลากหลายได้แก่ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย จีน และสิงคโปร์ เป็นต้น ซึ่งลูกค้าจีนอาจจะมีสัดส่วนที่ไม่ได้สูงมากนัก ทำให้ยังเห็นการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวชาติอื่น จึงเชื่อว่าจะสามารถชดเชยนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงไปได้บางส่วน

          ขณะที่ผลกระทบกับธุรกิจศูนย์การค้าของบริษัท พบว่าจำนวนผู้เข้าใช้บริการลดลงไปราว 10% จากปกติ ประชาชนชะลอการเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้า เนื่องจากมีความกังวลของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา ซึ่งกระทบต่อผู้เช่าในศูนย์การค้าไปด้วย ซึ่งบริษัทก็พยายามติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และหาแนวทางในการดูแลฟื้นฟูผู้เช่า อย่างไรก็ดีหากพิจารณาในแง่ดีคาดว่าใน 2 เดือนข้างหน้าทุกอย่างน่าจะยุติลงได้

          รวม ไปถึ งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการลดหย่อนภาษีจากทางภาครัฐที่ออกมาบริษัทมองว่าเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับฟื้นตัว และเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการเองจะต้องมาหาโอกาสปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้น และมีการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งบริษัทเองก็จะมีการปรับปรุงโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ในส่วนที่ยังไม่ได้ปรับปรุง โดยวางงบลงทุนในการปรับปรุงไว้ที่ 300-400 ล้านบาท พร้อมกับเดินหน้าการก่อสร้างโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ พื้นที่ 20,000 ตารางเมตร บนที่ดินย่านปทุมธานี มูลค่า 500 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 2563

          สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยในปี 2563 จะมีการโอนโครงการมูลค่าราว 2 พันล้านบาท ได้แก่ การโอนโครงการคอนโดมิเนียม QUINN สุขุมวิท 101 มูลค่า 2.5 พันล้านบาท และการโอนโครงการแนวราบในโครงการที่ปทุมธานี และมีแผนที่จะนำที่ดินเปล่าที่มีอยู่กว่า 1 พันไร่ ในภูเก็ต และในปทุมธานี มาทำเกษตรกรรม โดยการปลูกพืชเกษตร เพื่อสร้างรายได้เข้ามาให้กับบริษัท และเป็นการลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่กระทบต่อบริษัทในส่วนนี้ด้วย

ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น

วันที่ : 12 กุมภาพันธ์ 2563