สำโรง สมุทรปราการอีกทำเลน่าสนใจ ด้วยจุดเด่นเป็นได้ทั้งต้นทาง-ปลายทางของส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวใต้ แบริ่ง-สำโรง ตัดกับสายสีเหลือง ลาดพร้าวสำโรง กลายเป็นสถานีเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง สร้างความเจริญเข้าสู่พื้นที่จากการดึงคนไปมาหาสู่ระหว่างกัน ส่งผลให้โซนสงบนอกกรุงในอดีตกลับคึกคักมีสีสัน แวดล้อมไปด้วยตึกสูงสลับตึกแถวเก่า ที่ต่างดัดแปลงปรับโฉมกลายเป็นอาคารใหม่สร้างรายได้ ไล่ตั้งแต่โรงแรมที่พักขนาดเล็กรองรับนักท่องเที่ยวอย่างชาวต่างชาติละลานตาไปด้วยร้านค้าอาหารอร่อยน่าลิ้มลองตลอด 2 ฟากฝั่ง ห้างเก่าแก่ในท้องถิ่นต่างทยอยปรับตัว เมื่อห้างใหม่แทรกตัวเกิดขึ้น ที่น่าสนใจคือแหล่งรวมสินค้าเสื้อผ้าแบรนด์ดัง โดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสองของญี่ปุ่นกลายเป็นจุดเด่นดึงผู้คน ขณะความดั้งเดิมของสถาปัตยกรรมบ้านเรือนริมแม่น้ำเจ้าพระยาเก่าแก่ยังมีให้เห็น ตลาดสำโรง ตลาดนัดใหญ่ ที่เชื่อว่าอนาคตจะค่อยๆหายไป กลายเป็นสถาปัตยกรรมแปลกตา

          ขณะคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหญ่แบรนด์ท้องถิ่นให้ความสนใจ ปักหมุดทำเลนี้ค่อนข้างหนาตา นับนิ้วได้ไม่ต่ำกว่า 10 อาคาร ล้วนเป็นตึกสูงใหญ่เนื่องจากผังเมืองเมืองปากน้ำจะเปิดให้พัฒนาได้มากกว่ากรุงเทพมหานคร จึงไม่แปลกว่าที่นี่จะมีโครงการเกิดขึ้นมาก ทำให้ราคาที่ดินขยับสูง จากราคาหลักหมื่นบาทต่อตารางวา ปัจจุบันพุ่งไปกว่า 3 แสนบาทต่อตารางวา ติดสถานีบอกขายกัน 4-5 แสนบาทต่อตารางวา แต่วันนี้อยู่ในมือนายทุนหมดแล้ว

          อีกด้านของเมืองปากน้ำ ท่ามกลางความเจริญ หลายมุมยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มาก อย่างบางกระเจ้าปอดใหญ่สำหรับคนกรุงเทพฯ เนื้อที่กว่า 10,000 ไร่ เกาะสีเขียวถูกโอบล้อมไปด้วยสายน้ำเจ้าพระยาตามด้วยเมืองโบราณจำลอง ตลาดน้ำ ตลาดบกเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียร ล้วนแต่ดึงผู้คนหน้าใหม่ๆเข้าพื้นที่

          นอกจาก รถไฟฟ้าสายหลักจะเข้าพื้นที่สร้างความเจริญแล้ว เมืองปากน้ำยังเตรียมพัฒนาระบบราง เชื่อมโยงระหว่างเขตเมืองส่งต่อผู้โดยสารไปยังสถานีสำโรง เดินทางเข้าเมืองนอกเหนือไปจากรถประจำทางในพื้นที่ ก่อนจะลากแนวเส้นทางมุ่งหน้าไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการก่อสร้างกระเช้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสร้างความตื่นตานักท่องเที่ยวการลงทุน ก่อสร้างขยายเขตทางตามตรอกซอกซอย และถนนสายหลักเรียกว่าที่นี่กำลังกลายเป็นเมืองขยายที่น่าจับตายิ่ง

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ : 20 กุมภาพันธ์ 2563