อสังหาฯเปิดแนวรุก เมืองผู้สูงวัย
จับตาธุรกิจอสังหาฯเปิดแนวรุกรับเมกะเทรนด์ ‘Ageing Society’ เดินหน้าผุด‘เมืองผู้สูงวัย’ หวังเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อชิงโอกาสทางธุรกิจ
สังคมผู้สูงอายุ หรือ Ageing Society เป็น 1 ใน 4 ของเมกะเทรนด์โลก ที่มีผลกระทบต่อการขับเคลื่อนประเทศในหลายด้าน ซึ่งตามคำนิยามของสหประชาชาติ ระบุว่า ประเทศใดมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป เกิน 10%ของประชากรทั้งประเทศ ถือว่าประเทศนั้นเป็นสังคมผู้สูงอายุ และเมื่อมีประชากรผู้สูงอายุ 20%ของประชากรทั้งประเทศ จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.พบว่า ปี 2560 ประเทศไทยมีประชากรผู้สูงวัยราว 11.23ล้านคน หรือ 17.1%ของประชากรทั้งหมด และจะเพิ่มเป็น 13.6 ล้านคน หรือ 20.6% ของประชากรทั้งหมดในปี 2565
การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากรที่เกิดขึ้น ถือเป็นตัวผลักดันให้กลุ่มผู้สูงอายุเป็นตลาดที่มีศักยภาพทางธุรกิจ เพราะนอกจากจำนวนที่เพิ่มขึ้นแล้ว กลุ่มดังกล่าวยังมีกำลังซื้อสูง จนหลายธุรกิจมองเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่ต้องการเข้าไปจับ
รวมไปถึงธุรกิจอสังหาฯ ที่ก่อนหน้าการตอบสนองลูกค้ากลุ่มนี้ เพียงการออกแบบที่อยู่อาศัยให้เอื้อกับการใช้ชีวิต ซึ่งปัจจุบันเข้มข้นไปอีกขั้น ด้วยการพัฒนาโครงการในรูปแบบ‘เมืองสำหรับผู้สูงอายุ’ ภายใต้จุดขายมีบริการครบวงจรและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว โดยโครงการแรก ๆ ที่เข้าไปบุกเบิก ได้แก่ ‘เวลเนส ซิตี้’ ในเครือเวลเนส ซิตี้ กรุ๊ป บนเนื้อที่ 1,200 ไร่ ประกอบด้วยโรงแรม, โรงพยาบาล และบ้านพักอาศัย 2,000 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท
ตามด้วยการลงทุนกว่า 10,000ล้านบาท ของบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป กับโครงการ‘จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้’ ในคอนเซปต์ ‘เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ’ มุ่งเน้นการบริการด้านสุขภาพครบวงจรเพื่อผู้สูงวัยและครอบครัว
พฤหัสบดี 22 มิถุนายน 2560
และจากนี้จะมีผู้ประกอบอสังหาฯทยอยลงมาแข่งขันในสนามนี้มากยิ่งขึ้น อาทิ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) เป็นต้น
“มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อีกหลายรายที่จะมีการลงทุนทำโครงการในลักษณะนี้ เพราะเห็นในศักยภาพของผู้สูงวัย กลุ่มธนบุรี เฮลท์แคร์เองก็เช่นกัน โดยเราประกาศเป็นวิสัยทัวน์ของกลุ่มเลยว่า จะหันมาลงทุนด้านนี้มากขึ้น”นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) กล่าว
สำหรับโครงการ ‘จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้’ มีพื้นที่ 140 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย 80% และคนต่างชาติ 20% โดยคนต่างชาติที่โฟกัส ได้แก่ กลุ่มคนญี่ปุ่นที่มาทำงานหรือมาอาศัยในไทยและกลุ่มคนจีนที่สนใจลงทุนอสังหาฯในไทย
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะแบ่งการดำเนินการเป็น 3 เฟส เฟสแรก จะเป็นที่พักอาศัยแบบ Low-rise 7 ชั้น จำนวน 1,300 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 43 ตร.ม. และ 63 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.6-6 ล้านบาท รวมไปถึงคลับเฮ้าส์ ร้านอาหาร และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ คาดว่า จะเปิดให้บริการช่วงไตรมาส 4 ปี 2561
ส่วนเฟสที่ 2 จะเป็นการสร้างอาคารที่พักอาศัยเพิ่มอีกกว่า1,000 ยูนิต และเฟสสุดท้าย โรงพยาบาล จำนวน 400 เตียง
“เราไม่ได้กังวลกับการแข่งขัน เพราะดีมานต์ยังมีอีกเยอะ อย่างโครงการของเรารองรับได้เพียงกว่า 2,000 ยูนิต ส่วนความได้เปรียบของเรา ก็คือ ทำเรื่องสุขภาพและโรงพยาบาลมานาน อีกทั้งมีบริการครบวงจร ซึ่งเรามีแผนจะขยายโครงการในรูปแบบนี้ทั้งในและต่างประเทศ”
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้พัฒนาอสังหาฯอีกราย ที่กำลังจะเปิดตัวโครงการเมืองสำหรับผู้สูงอายุออกมา โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ ย่านบางนา ภายใต้จุดขายบริการครบวงจร มีทั้งที่พักอาศัย โรงพยาบาล ตลอดจนบริการต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ คาดว่า จะเปิดตัวภายในครึ่งหลังของปี 2560
ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯระดับบิ๊กเนม อย่างบริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) ก็ให้ความสนใจกับการลงทุนพัฒนาในรูปแบบดังกล่าวด้วยเช่นกัน
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม ฯ กล่าวว่า ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าสนใจมาก ทั้งในเรื่องจำนวนประชากรและกำลังซื้อ ซึ่งทางแสนสิริได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง Aged Societyมา 5 ปีแล้ว และการสร้างเมืองสำหรับผู้สูงอายุก็อยู่ในแผนดำเนินการของแสนสิริ หากพร้อมเมื่อไรจะลงมือทันที
“คอนเซปต์ของเราจะต้องครบเครื่องเรื่องสุขภาพ ต้องมีโรงพยาบาลด้วย เพราะผู้สูงอายุกับสุขภาพเป็นเรื่องคู่กัน รวมถึงจะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดูแลในเรื่องนี้ เช่น การสื่อสารระหว่างคนไข้กับหมอ เป็นต้น”
ด้าน ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางบริษัทยังไม่มีแนวคิดการพัฒนาโครงการในรูปแบบนี้ แม้กลุ่มผู้สูงอายุจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากการจับกลุ่มดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย และมีข้อจำกัดในการทำการตลาดหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องสินเชื่อ
“กลุ่มนี้ยังเป็นลูกค้ากลุ่มจำกัดของธุรกิจอสังหาฯ คือ เราไม่รู้ว่า มีดีมานต์มากน้อยแค่ไหน คุ้มหรือเปล่ากับการลงทุน ที่สำคัญ ยังไม่มีแบงก์ไหนปล่อยสินเชื่อบ้านให้คนกลุ่มนี้แบบชัดเจน ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่มากของธุรกิจอสังหาฯ ทำให้เรายังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าที่มีรายได้กลางถึงสูง ที่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีดีมานต์ชัดเจนอยู่”