คลังปัดเลื่อนใช้ ก.ม. ที่ดินนายกฯสั่งเสร็จรัฐบาลนี้
รมช.คลัง ย้ำไม่เลื่อนใช้กฎหมายที่ดินระบุชัดนายกรัฐมนตรีต้องการให้เสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ ขณะกมธ. ชี้จำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบ เผยเตรียมประชุมอีกรอบ 11 ก.ค. เพื่อพิจารณาข้อเสนอจากองค์กรต่างๆ มั่นใจแล้วเสร็จทัน 23 ก.ค.นี้ ด้านภาคเอกชนหวังเห็นความชัดเจน
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างผ่าน สนช. ภายในรัฐบาลชุดนี้ แต่อย่างไรก็ตามการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในชั้นกรรมาธิการ สนช. ได้ขยายอายุการพิจารณาเป็นรอบที่ 7 แล้ว ซึ่งจะมีระยะเวลาการพิจารณาจนถึงสิ้นสุดเดือนก.ค.นี้ โดยประเด็นในการพิจารณาที่เป็นรายละเอียด เช่น ความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อจัดทำเป็นฐานภาษี เนื่องจากขณะนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งจะมีหน้าที่จัดเก็บภาษีนี้ตามกฎหมาย ยังไม่สามารถเข้าไปในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของเอกชนได้ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับ
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการ สนช.ที่พิจารณาร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำเป็นต้องลงรายละเอียดกฎหมายลูกของร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อควบคุมให้อยู่ในกรอบที่กำหนด ทั้งนี้ การลงรายละเอียดดังกล่าวทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้มากขึ้น แม้ว่าตัวกฎหมายลำดับรองหรือกฎหมายลูก จะเป็นอำนาจฝ่ายบริหาร(รัฐบาล) ที่จะยกร่างออกมาก็ตาม แต่เนื่องจากคณะกรรมาธิการมีความเห็นว่า ในหลายครั้งเมื่อกฎหมายแม่มีผลบังคับใช้แล้ว และรัฐบาลไปออกกฎหมายลูกซึ่งเป็นรายละเอียดต่างๆในกฎหมายแม่ แต่ปรากฏว่าตัวกฎหมายลูกออกมาไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ หรือบางกรณีก็ไม่ได้ออกกฎหมายลูกตามระยะเวลาที่กำหนด
นายอภิชาติ ประสิทธิ์นฤทธิ์ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมาธิการฯ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ไม่ได้มีการหารือเกี่ยวกับการเลื่อนระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมาย โดยยังอยู่ในกรอบเดิม คือ บังคับใช้ในปี 2562 และจัดเก็บภาษีในปี 2563 โดยที่ประชุมเห็นว่าควรมีการพิจารณาข้อเสนอของหน่วยงานต่างๆให้มีความรอบคอบ ซึ่งที่ผ่านมามีข้อเสนอของหอการค้าไทยเกี่ยวกับผลกระทบต่อประชาชน รวมทั้งมีข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)
สำหรับประเด็นข้อเสนอจากหน่วยงานต่างๆที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ เช่น ผลกระทบต่อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของกิจการที่เกี่ยวข้องกับบริการสาธารณะ เช่น ไฟฟ้า น้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบ ต่อทั้งรัฐวิสาหกิจและเอกชนที่ทำธุรกิจนี้ โดยคณะกรรมาธิการฯ ต้องการพิจารณาเพื่อไม่ให้กระทบกับต้นทุนทำธุรกิจที่อาจส่งผลกระทบ ต่อเนื่องถึงผู้บริโภค
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาข้อเสนอ ขององค์กรต่างๆ เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในวันที่ 11 ก.ค.นี้ โดยการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ มีกำหนดถึงวันที่ 23 ก.ค.2561 โดยถ้ามีการพิจารณาข้อเสนอของหน่วยงานต่างๆ เสร็จก็คงไม่มีการต่ออายุการพิจารณาอีก
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การเก็บภาษีที่ดินจะเก็บช้าหรือเร็ว ขอให้รัฐดำเนินการและมีอัตราการจัดเก็บที่ชัดเจน ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินปี 2562 ในมุมผู้ประกอบการจะไม่กระทบมากนัก แต่สำหรับเจ้าของที่ดินอาจมีการปล่อยที่ดินออกมามากขึ้น
ส่วนผู้ประกอบการหากได้ที่ดินมา อาจปรับเปลี่ยนการแบ่งที่ดินเป็นเฟสเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยช้าหรือถี่ขึ้น เพราะการถือครองที่ดินไว้นานจะมีผลต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจ จากเดิมภาระต้นทุนมาจากอัตราดอกเบี้ยจากเงินที่ซื้อที่ดินเท่านั้น และจ่ายภาษีเมื่อมีรายได้เข้าบริษัท
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
27 มิถุนายน 2561