ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ “ธอส” ประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2562 หดตัว รับแรงกดดันมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธปท. และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ คาดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศอยู่ที่ 306,911 ยูนิต ลดลง 10.90% จากปี 2561
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกลยุทธ์ 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยข้อมูลการคาดการณ์ว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2562 น่าจะหดตัวลงมาก เมื่อเทียบกับปี 2561 ในแง่ของการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยเป็นผลมาจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล และในพื้นที่ภูมิภาค
เนื่องจากประเมินอัตราดอกเบี้ยในปี 2562 ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น คาดว่าจะมีการปรับฐานอย่างน้อย 2 ครั้ง แม้ก่อนหน้านี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% ด้วยมติ 5 ต่อ 2 ซึ่งเห็นควรขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จาก 1.50% เป็น 1.75% ต่อปี ถึงจะไม่เพิ่มทันทีตอนนี้ก็ตาม อีกทั้งมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธปท. มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย. 2562 จะส่งผลให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีการเร่งตัวก่อนที่จะมีมาตรการบังคับใช้ในช่วงปลายปี 2561 และต้นปี 2562
ประกอบกับประเมินว่าเงินเฟ้อจะขยายตัวและตลาดโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจจีนแย่ลงกว่าเดิม และกระทบไปยังประเทศญี่ปุ่น ส่วนสหรัฐฯจะขยายตัวดีบนความผันผวนของเศรษฐกิจ โดยจะกระทบต่อทุกอุตสาหกรรมให้ชะลอตัวลง ดังนั้นปัจจัยลบตามที่กล่าวมาจะกระทบต่อความต้องการของผู้บริโภคของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะยูนิตระดับกลางราคา 2-5 ล้านบาทที่ยังเหลือค้างในตลาดมากที่สุดจะได้รับผลกระทบ และยูนิตระดับล่างราคา 1-2 ล้านบาทก็ได้รับผลกระทบจากการปล่อยสินเชื่อยากขึ้น ส่วนตลาดระดับบนยังไม่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทุกรายจะมีการปรับตัว และผู้บริโภคเองก็ต้องปรับตัวตามด้วย ซึ่งปัจจุบันหลายบริษัทก็ได้ออกมาประกาศถึงแผนการดำเนินงานในปี 2562 แล้ว เห็นได้ชัดว่ามีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงมาก ทั้งนี้ต้องรอดูการเปลี่ยนแปลงของความต้องการของตลาดและผู้บริโภคเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามในปี 2562 ตลาดที่อยู่อาศัยยังมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง, เมกะโปรเจกต์ของภาครัฐทำให้เกิดการจ้างงาน, ถ้าการส่งออกมีการขยายตัวดีตามเศรษฐกิจโลก, GDP ยังขยายตัวได้อีก และคาดว่าประชาชนจะมีกำลังซื้อสูงจากรายได้ต่อหัวที่เพิ่มขึ้น
ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสองนั้น ทางกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (กองทุน SFIs) อนุมัติเงินให้ธอส. จำนวน 31 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลของธนาคารให้มีความทันสมัยรองรับการบริการให้กับผู้ขอสินเชื่อ เพื่อยกระดับให้เป็นตลาดกลางดิจิทัลนำทรัพย์สินรอการขยายของกรมบังคับคดี รับซื้อหนี้เสียของธนาคารเข้ามาเปิดจำหน่ายเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ของอสังหาริมทรัพย์ให้กับผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย
โดยปัจจุบันได้อยู่ในกระบวนการในการจัดจ้างทำระบบแล้ว ซึ่งจะเริ่มพัฒนาได้ในเดือน ม.ค. 2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 2562 และเริ่มใช้งานในเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2562 จะมีการนำข้อมูลมาประเมินผลอีกครั้ง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
2 มกราคม 2562